กรมการขนส่งทางบก ออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสุขภาพเพื่อออกใบรับรองแพทย์ สำหรับผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถ หวังคัดกรองบุคคลได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
วันที่ 25 มิถุนายน นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ออกคำสั่งกรมการขนส่งทางบก ที่243/2557 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสุขภาพเพื่อออกใบรับรองแพทย์ สำหรับผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถ
ด้วยในปัจจุบันในการตรวจสุขภาพร่างกายของประชาชนเพื่อการออกใบรับรองแพทย์ สำหรับใช้เป็นหลักฐานประกอบการขอรับใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก เป็นการเพื่อคัดกรองว่า บุคคลนั้นมีสุขภาพร่างกายไม่เป็นผู้ทุพพลภาพ ไร้ความสามารถจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ และไม่เป็นโรคสำคัญ รวม 5 โรคเป็นหลัก ได้แก่ โรคเรื้อนในระยะติดต่อ หรือในระยะที่ปรากฎอาหารเป็นที่น่ารังเกียจแก่สังคม วัณโรคในระยะอันตราย โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฎอาการอันเป็นที่น่ารังเกียจแก่สังคม โรคติดยาเสพติด โรคพิษสุราเรื้อรัง ซึ่งใบรับรองแพทย์ที่ออกให้ดังกล่าว ปรากฎว่า ยังไม่ครอบคลุมต่อการเจ็บป่วยจากโรคอื่นๆ ที่มีผลกระทบ และอาจเป็นอันตรายในขณะขับรถ ที่จะนำไปสู่การบาดเข็บและสูญเสียชีวิต หรือทรัพย์สินของประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน อันเนื่องมาจากการขับรถของบุคคลผู้เจ็บป่วย รวมถึงบุคคลผู้ป่วยด้วยวิกลจริต จิตฟั่นเฟือง หรือเพราะเหตุสูงอายุ
ดังนั้นเพื่อให้การออกใบรับรองแพทย์สามารถคัดกรองบุคคลได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถป้องกันอันตรายซึ่งเกิดจากการขับรถของบุคคลที่มีความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นๆ หรือบุคคลผู้ป่วยด้วยวิกลจริต จิตฟั่นเฟือง หรือเพราะเหตุสูงอายุ ให้ครอบคลุมมากขึ้นฯ จึงเห็นควรแต่งตั้งที่ปรึกษา และคณะกรรมการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสุขภาพเพื่อออกใบรับรองแพทย์ สำหรับผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถ โดยร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก แพทยสภา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
ทั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การตรวจสุขภาพเพื่อออกใบรับรองแพทย์ สำหรับผู้ขอรับและต่ออายุใบอนุญาต ประกอบด้วย นายอัฌษไธค์ และนายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา เป็นที่ปรึกษา มีนายวัฒนา พัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานกรรมการ พร้อมกรรมการ 27 ท่าน
ที่มา : http://www.isranews.org/isranews-news/item/30840-drive.html